ถ้าถามว่า Xiaomi 13 Pro ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้ บอกเลยว่ายังเป็นตัวเลือกที่ดีมาก โดยเฉพาะถ้าเทียบราคากับสเปกที่ได้ เพราะมันมาพร้อมชิป Snapdragon 8 Gen 2 ที่ยังแรงพอจะเล่นเกมหนักๆ หรือใช้งานทั่วไปได้แบบลื่นๆ กล้องหลักที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้วจาก Sony IMX989 พัฒนาโดย Leica ก็ยังถ่ายรูปออกมาได้ดีไม่แพ้มือถือเรือธงรุ่นใหม่ๆ
หน้าจอ LTPO OLED 120Hz ความละเอียด 2K ก็ยังให้ภาพสวยคมกริบ ที่สำคัญคือรองรับชาร์จไว 120W ที่ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็เต็ม ถ้าคุณต้องการมือถือเรือธงที่ครบเครื่องและราคาดรอปลงมาจากตอนเปิดตัว xiaomi 13 pro เข้าไทย ยังคุ้มค่าอยู่
แต่ถ้าคุณอยากได้เทคโนโลยีใหม่สุดและไม่รีบร้อน Xiaomi 14 Pro อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า คาดว่ามันจะใช้ Snapdragon 8 Gen 3 ที่แรงขึ้นและประหยัดพลังงานกว่าเดิม พร้อมอัปเกรดระบบกล้องให้ดีขึ้นไปอีกระดับ รวมถึงอาจมีการปรับดีไซน์ให้บางลงและดูพรีเมียมขึ้น ยังไม่รวมถึงการอัปเกรดด้านซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมกับ HyperOS ซึ่งน่าจะจัดการพลังงานและความลื่นไหลของระบบได้ดีขึ้น
ถ้าคุณพร้อมรอและอยากได้ของใหม่สุด การรอ Xiaomi 14 Pro ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าต้องการมือถือดีๆ ตอนนี้แบบไม่ต้องรอ Xiaomi 13 Pro ยังเป็นเรือธงที่คุ้มอยู่
ยังควรซื้อ Xiaomi 13 Pro อยู่ไหม?
Xiaomi 13 Pro ยังเป็นมือถือเรือธงที่น่าซื้ออยู่ โดยเฉพาะถ้าดูจากสเปกที่ให้มา มันมาพร้อมชิป Snapdragon 8 Gen 2 ที่ยังแรงพอสำหรับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเล่นเกม กดโซเชียล หรือถ่ายรูป กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้วจาก Sony IMX989 ที่พัฒนาร่วมกับ Leica ให้คุณภาพภาพถ่ายระดับโปร หน้าจอ LTPO OLED 120Hz ความละเอียด 2K ก็คมชัด สีสวย
แถมรองรับการปรับรีเฟรชเรตอัตโนมัติช่วยประหยัดแบต ส่วนระบบชาร์จไว 120W ก็เป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้มันใช้งานสะดวกสุดๆ ไม่ต้องเสียเวลารอนาน ถ้าเทียบกับราคาที่ลดลงมาจากตอนเปิดตัว ถือว่าเป็นหนึ่งในมือถือเรือธงที่ยังคุ้มอยู่
แต่ถ้ามองไปที่อนาคต Xiaomi 14 Pro กำลังจะมา ซึ่งคาดว่าจะใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 ที่แรงขึ้นกว่าเดิมและจัดการพลังงานดีขึ้น อาจมีการอัปเกรดกล้องให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับซอฟต์แวร์ใหม่ HyperOS ที่ปรับปรุงความลื่นไหลของระบบ
ถ้าคุณเป็นสายต้องมีของใหม่สุดตลอด Xiaomi 14 Pro อาจเป็นตัวเลือกที่น่ารอ แต่ถ้าคุณต้องการมือถือเรือธงที่ยังแรง ใช้งานดี และ xiaomi 13 ราคาล่าสุด ยังคงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อยู่
เจาะลึก xiaomi 13 pro สเปค – ยังแรงพอสำหรับปี 2025 หรือไม่?
Xiaomi 13 Pro เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2023 และถือเป็นหนึ่งในมือถือเรือธงที่ครบเครื่องทั้งสเปค กล้อง และประสิทธิภาพ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงปี 2025 คำถามคือ มันยังเร็วพอไหมเมื่อเทียบกับมือถือรุ่นใหม่ที่กำลังมา วันนี้เรามาเจาะลึกกันแบบละเอียด
หน้าจอ
Xiaomi 13 Pro ใช้หน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด 2K (3200 × 1440 พิกเซล) รีเฟรชเรต 120Hz ซึ่งยังถือว่าเป็นสเปคระดับท็อป หน้าจอรองรับ HDR10+ และ Dolby Vision ให้สีสันที่สวยและมีความคมชัดสูงสุดเท่าที่มือถือรุ่นท็อปจะให้ได้
เทคโนโลยี LTPO ยังช่วยปรับรีเฟรชเรตอัตโนมัติเพื่อประหยัดพลังงาน ถ้าจะเทียบกับ Xiaomi 14 Pro ที่อาจใช้ LTPO OLED เจเนอเรชันใหม่ หรือมีความสว่างสูงขึ้น หน้าจอของ Xiaomi 13 Pro ก็ยังถือว่าดีมากอยู่ ถ้าไม่ใช่สายต้องอัปเดตของใหม่สุดตลอด ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล
ชิปเซ็ต
Xiaomi 13 Pro ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 ที่เปิดตัวในปี 2023 ซึ่งเป็นหนึ่งในชิปที่แรงและจัดการพลังงานได้ดี แม้ว่าในปี 2025 จะมีชิปรุ่นใหม่กว่า เช่น Snapdragon 8 Gen 3 หรือ Snapdragon 8 Gen 4 แต่ Gen 2 ก็ยังแรงพอสำหรับการเล่นเกมระดับ AAA อย่าง Genshin Impact, PUBG, COD Mobile หรือแม้แต่การใช้งานมัลติทาสก์หนักๆ แบบเปิดหลายแอปพร้อมกัน โดยไม่เจออาการค้างหรือสะดุด ถ้าไม่ได้ซีเรียสว่าต้องใช้ชิปรุ่นใหม่สุด Xiaomi 13 Pro ก็ยังตอบโจทย์อยู่
แบตเตอรี่ & ชาร์จเร็ว
Xiaomi 13 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ 4,820 mAh และรองรับชาร์จไว 120W ซึ่งถือว่าเร็วมากในมาตรฐานปัจจุบัน ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% แค่ประมาณ 19 นาที เท่านั้น แถมยังรองรับ ชาร์จไร้สาย 50W ที่เร็วกว่ามือถือหลายรุ่นที่ยังติดอยู่ที่ 15W-30W
ถึงแม้ว่า Xiaomi 14 Pro อาจอัปเกรดแบตใหญ่ขึ้นหรือชาร์จไวขึ้นอีกนิด แต่ความเร็วระดับนี้ก็ยังถือว่าเร็วและใช้งานสะดวก ถ้าไม่ใช่คนที่ต้องการของใหม่สุดตลอด Xiaomi 13 Pro ก็ยังเป็นมือถือที่ใช้งานได้แบบไม่ต้องกลัวว่าแบตจะหมดไว
วัสดุ & ดีไซน์
ตัวเครื่องของ Xiaomi 13 Pro ใช้วัสดุ เซรามิก ซึ่งให้ความรู้สึกพรีเมียมมากกว่าวัสดุที่เป็นกระจกทั่วไป มีความแข็งแรงและทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี ที่สำคัญยังกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 ที่สามารถทนน้ำลึก 1.5 เมตรได้นาน 30 นาที เทียบกับมือถือรุ่นใหม่ที่อาจใช้วัสดุที่บางลงหรือพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้น Xiaomi 13 Pro ก็ยังเป็นมือถือที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมและดูดี ถ้าไม่ใช่สายต้องมีมือถือบางเบาสุดๆ ก็ไม่มีเหตุผลต้องเปลี่ยน
กล้อง Xiaomi 13 Pro เทียบกับกล้องของ Xiaomi 14 Pro
กล้องของ Xiaomi 13 Pro ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้มือถือรุ่นนี้แตกต่างจากคู่แข่ง เพราะใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX989 ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50MP ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์กล้องมือถือที่ใหญ่ที่สุดในตลาดตอนเปิดตัว ให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย สีสันและไดนามิกเรนจ์ทำออกมาได้สมจริงกว่าเดิมเพราะได้รับการปรับจูนจาก Leica
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้อง Telephoto 50MP ที่ซูมออปติคอลได้ 3.2x และกล้อง Ultra-wide 50MP ที่เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน ส่วนโหมดถ่ายภาพของ Xiaomi 13 Pro ก็มีลูกเล่นเยอะ ทั้งโหมด Portrait ที่ละลายหลังสวย โหมด Pro ที่ให้ปรับค่าเองได้เต็มที่ และโหมดกลางคืนที่ช่วยให้ภาพออกมาคมชัดและมีรายละเอียดมากขึ้น
แต่ถ้ามองไปที่ Xiaomi 14 Pro คาดว่ากล้องจะได้รับการอัปเกรดในหลายจุด เช่น เซ็นเซอร์หลักที่อาจได้รับการปรับปรุงให้รับแสงได้ดีขึ้น หรือเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้ภาพมีมิติและคมชัดกว่าเดิม รวมถึงการอัปเกรดระบบกันสั่นให้ดีขึ้นสำหรับการถ่ายวิดีโอและภาพนิ่งในที่มืด ส่วนกล้อง Telephoto อาจมีการเพิ่มระยะซูมให้ไกลขึ้นหรือเพิ่มเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ภาพยังคมแม้ซูมเยอะ
สำหรับคนที่เน้นถ่ายรูปเป็นหลักและต้องการเทคโนโลยีใหม่สุด Xiaomi 14 Pro อาจเป็นตัวเลือกที่น่ารอ แต่ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องอัปเกรดเล็กๆ น้อยๆ Xiaomi 13 Pro ก็ยังเป็นมือถือกล้องระดับโปรที่ให้คุณภาพภาพถ่ายสุดคุ้มอยู่
เปรียบเทียบ Xiaomi 13 Pro vs Xiaomi 14 Pro อะไรเปลี่ยนไปบ้าง?
Xiaomi 13 Pro เป็นหนึ่งในมือถือเรือธงที่ทำได้ดีทั้งเรื่องกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพ แต่พอ Xiaomi 14 Pro เข้ามา หลายคนก็เริ่มสงสัยว่ามันมีการอัปเกรดอะไรที่คุ้มค่าพอให้เปลี่ยนหรือไม่ วันนี้เราจะมาเทียบกันแบบชัดๆ
หน้าจอ
Xiaomi 13 Pro ใช้ LTPO OLED ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด 2K รีเฟรชเรต 120Hz ซึ่งเป็นจอคุณภาพสูง สีสวย คมชัด และประหยัดพลังงานเพราะปรับรีเฟรชเรตอัตโนมัติ แต่ Xiaomi 14 Pro มีข่าวลือว่าอาจใช้ LTPO OLED เจเนอเรชันใหม่ ที่ให้ความสว่างสูงขึ้นและอาจรองรับ PWM Dimming ที่ถนอมสายตากว่าเดิม รวมถึงการลดขอบหน้าจอให้บางลง ทำให้ประสบการณ์ใช้งานเต็มตากว่าเดิม
ชิปเซ็ต
Xiaomi 13 Pro ใช้ Snapdragon 8 Gen 2 ซึ่งยังเป็นชิปที่เร็วและแรงในปัจจุบัน เล่นเกมลื่น เปิดหลายแอปพร้อมกันไม่มีสะดุด แต่ Xiaomi 14 Pro คาดว่าจะมาพร้อม Snapdragon 8 Gen 3 ที่แรงขึ้น ประหยัดพลังงานกว่าเดิม และอาจมาพร้อมสถาปัตยกรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้าน AI ถ้าใช้งานทั่วไป Xiaomi 13 Pro ก็ยังเร็วพอ แต่ถ้าต้องการประสิทธิภาพสูงสุด Xiaomi 14 Pro จะเป็นตัวเลือกที่แรงขึ้น
กล้อง
Xiaomi 13 Pro มาพร้อม เซ็นเซอร์หลัก Sony IMX989 ขนาด 1 นิ้ว 50MP ที่ให้ภาพคมชัด เก็บรายละเอียดดีเยี่ยม ได้รับการปรับจูนโดย Leica ส่วน Xiaomi 14 Pro คาดว่าอาจใช้ เซ็นเซอร์ใหม่ที่พัฒนาต่อจาก IMX989 หรืออาจใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้กล้อง Telephoto และ Ultra-wide อาจได้รับการอัปเกรดให้รองรับการซูมไกลขึ้นและถ่ายมุมกว้างได้ดีกว่าเดิม ถ้าเน้นถ่ายรูป Xiaomi 14 Pro อาจจะให้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น แต่ 13 Pro ก็ยังถือว่าเป็นมือถือที่ถ่ายรูปดีมากอยู่
แบตเตอรี่ & ชาร์จไว
Xiaomi 13 Pro ให้แบต 4,820 mAh และรองรับ ชาร์จไว 120W ที่สามารถชาร์จเต็มในเวลาประมาณ 19 นาที ซึ่งถือว่าเร็วมากอยู่แล้ว ส่วน Xiaomi 14 Pro คาดว่าอาจเพิ่มความจุแบตขึ้น หรือพัฒนาการจัดการพลังงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม
รวมถึงอาจรองรับ ชาร์จไร้สายที่เร็วขึ้น ถ้าเทียบกัน Xiaomi 13 Pro ก็ยังเพียงพอสำหรับการใช้งานหนัก แต่ถ้า Xiaomi 14 Pro เพิ่มแบตและชาร์จไวขึ้นอีก ก็น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการความอึดขึ้น
ดีไซน์ & น้ำหนัก
Xiaomi 13 Pro ใช้วัสดุ เซรามิก ซึ่งให้สัมผัสพรีเมียม แต่ก็ค่อนข้างหนัก ส่วน Xiaomi 14 Pro มีข่าวลือว่าอาจเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่แข็งแรงขึ้นแต่เบาลง อาจมีการลดขอบเครื่องให้บางลงเพื่อให้จับถนัดขึ้น และอาจเปลี่ยนดีไซน์ให้ดูทันสมัยขึ้น
สำหรับใครที่ชอบมือถือที่ให้ความรู้สึกพรีเมียม Xiaomi 13 Pro ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้า Xiaomi 14 Pro มีการลดน้ำหนักเครื่องและดีไซน์ที่ดีกว่า อาจทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าใช้ขึ้น
Xiaomi 13 Pro ยังคงเป็นมือถือเรือธงที่ยอดเยี่ยมในปี 2025 ไหม
Xiaomi 13 Pro เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2023 แต่ถ้าถามว่ามันยังเป็นมือถือเรือธงที่ยอดเยี่ยมในปี 2025 ไหม คำตอบคือ ยังไหวอยู่ เพราะสเปกที่ให้มาถือว่ายังแข็งแกร่งเทียบกับมือถือรุ่นใหม่ๆ ได้สบาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ LTPO OLED 120Hz ความละเอียด 2K ที่ยังคมกริบและให้สีสันสวยงาม ชิป Snapdragon 8 Gen 2 ที่แม้จะไม่ใช่รุ่นล่าสุด
แต่ก็ยังแรงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมกราฟิกหนักๆ ได้แบบลื่นๆ ส่วนกล้องหลักที่ใช้ เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้วจาก Sony IMX989 ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับท็อปสำหรับมือถือ แถมได้การปรับจูนสีจาก Leica ที่ช่วยให้ภาพถ่ายออกมาคมชัดและดูเป็นธรรมชาติ
แต่ถ้าเทียบกับมือถือรุ่นใหม่อย่าง Xiaomi 14 Pro หรือแม้แต่ Xiaomi 15 Pro ที่อาจเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 ก็ต้องยอมรับว่ามันอาจไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอีกต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องของชิปเซ็ตที่รุ่นใหม่จะได้ Snapdragon 8 Gen 3 หรือ 8 Gen 4 ที่แรงขึ้น รวมถึงการอัปเกรดกล้องและซอฟต์แวร์ที่อาจมีฟีเจอร์ใหม่ที่ Xiaomi 13 Pro ไม่มี แต่ถ้าดูจาก xiaomi 13 pro ราคาล่าสุด และความคุ้มค่า Xiaomi 13 Pro
ยังคงเป็นมือถือเรือธงที่ดีสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการเทคโนโลยีใหม่สุด แต่ยังอยากได้มือถือที่เร็ว กล้องดี และชาร์จไวระดับ 120W ที่ยังถือว่าเร็วที่สุดในตลาดทั่วไปอยู่แต่ถ้าใครรอ xiaomi 13 pro มือสอง ก็คงต้องรออีกสักพักเลยทีเดียว