การชาร์จมือถือ พฤติกรรมไหนที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อรักษาอายุการใช้งานแบตเตอรี่

การชาร์จมือถือ คนส่วนใหญ่อาจจะ เคยเป็นอยู่บ่อย ๆ ที่มีพฤติกรรมคำนวณเวลา การใช้งานได้ของแบตเตอรี่ ว่าจะคงอยู่ได้นานเท่าไหร่

การชาร์จมือถือ ทันทีที่เห็นว่า เหลือเป็นชั่วโมง แต่เพียงผ่านเวลาไปไม่นาน กลับขึ้นโชว์ว่า เหลือไม่ถึงชั่วโมง การที่ระบบคำนวณเวลา ใช้งาน แบตเตอรี่มีความผันผวน สืบเนื่องมาจาก การที่ชาร์จแค่ช่วงสั้น ๆ ที่บ่อยครั้งเกินไป

แบตเตอรี่จะมีสิ่งที่เรียกว่า การนับรอบการชาร์จ วิธีชาร์จแบตเตอรี่ เป็นค่าที่บ่งบอกถึง การใช้งานของแบตเตอรี่ ก่อนที่แบตเตอรี่จะมี การเสื่อมสภาพ หรือหมดอายุลงไป ทางบริษัท Apple ได้มีการเปิดเผยข้อมูลว่า 1 รอบการชาร์จ เปรียบได้กับการชาร์จ แบตเตอรี่เต็ม 100%

ซึ่งไม่ได้หมายถึงว่า จะต้องใช้งาน ไปจนกว่าแบตเตอรี่หมด ตัวอย่างเช่น จำนวนแบตเตอรี่จากเต็ม 100% ลดลงไป 50% เอาไปชาร์จเพิ่มจนเต็ม และได้ใช้งานไปอีก 50% ลักษณะนี้จะคิดเป็น 1 รอบการชาร์จ

จากการทดลอง กับแบตเตอรี่หลาย ๆ แบรนด์ การชาร์จแบต samsung จะเห็นได้ว่า พอมีการใช้งานไปเรื่อย ๆ ความจุของแบตค่อย ๆ น้อยลงไป โดยทั่วไปจะน้อยลงประมาณ 80% จากความจุ 100% เมื่อผ่านมาได้ 1 ปี และยิ่งไปกว่านั้น แบตเตอรี่ไม่ได้เสื่อม ชาร์จแบตไม่เต็ม100 เป็นไรไหม เพราะว่าการใช้งานที่บ่อยครั้งของ Charge cycle อย่างเดียว

พบว่ามีประเด็นอีกหลาย ๆ อย่างที่ทำให้แบตเตอรี่ เสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว นั่นก็คือ การใช้งานของผู้คน บางอย่างที่อาจจะ ไปลดจำนวนรอบการชาร์จ ของแบตเตอรี่นั่นเอง การชาร์จแบตไอโฟนที่ถูกต้อง 

คนส่วนใหญ่จะมองว่า ทิปไอที การชาร์จแบตจนเต็ม 100% คือวิธีการที่ถูกต้อง จึงชาร์จแบตทิ้งไว้ข้ามคืน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว แบตเตอรี่ที่ชาร์จไว้จนเต็มแล้ว นั้นเกิดแรงดันไฟฟ้าสูง ส่งผลให้แบตเตอรี่ ทำงานหนัก จนทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวขึ้น

ดังนั้น วิธีการชาร์จที่ถูกต้อง ก็คือให้แบตเตอรี่อยู่ที่ 40-85% ควรจะชาร์จบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการชาร์จเอาไว้ทั้งคืน เป็นวิธีการรักษา แบตเตอรี่โทรศัพท์ที่ดี โดยเรามักจะคุ้นเคย ตอนที่ซื้อเครื่องใหม่ แบตเตอรี่ที่มีมาจะไม่เต็ม นั่นเป็นเพราะการถนอม แบตอย่างดีนั่นเอง

แบตเตอรี่ประเภท Lithium Ion ค่อนข้างเสื่อมอย่างรวดเร็ว หากมีการใช้งานจนหมด ซึ่งอ้างอิงจากผลการทดลอง ที่ได้เปิดเผยข้อมูลว่า หากมีการใช้งานแบตเตอรี่หมด แล้วค่อยชาร์จเข้าไป ทำพฤติกรรมแบบนี้ได้ประมาณ 350 – 400 รอบจะเห็นได้ว่า แบตเตอรี่มีประสิทธิภาพเหลือเพียง 70% จากของเดิมซะแล้ว

หากถ้าได้ชาร์จแบตเตอรี่ ในตอนที่เหลือเยอะกว่า 0% จะคงจำนวนรอบเยอะถึง 5-10 เท่า จากนั้นแบตเตอรี่นั้น มีความจุน้อยลงถึง 70% เลยทีเดียว ดังนั้น ถ้าไม่ต้องการให้แบตเตอรี่เสื่อมอย่างรวดเร็ว วิธีชาร์จแบตให้เต็มเร็ว ให้หลีกเลี่ยงการใช้งาน จนแบตเตอรี่หมดไปเอง บ่อยเกินไป

ไม่เพียงเท่านั้น ทางบริษัท Apple รวมถึงนักวิจัย ด้านแบตเตอรี่ มีการเสนอวิธีการที่ดี ก็คือ ให้ใช้งานจนแบตเตอรี่ หมดไปเองบ้าง แต่ให้ทำแค่ทุก ๆ 1-2 เดือน ไม่ควรใช้งานจนแบตหมด ติดต่อกันบ่อยเกินไป

อีกหนึ่งพฤติกรรมที่หลายคน น่าจะเคยทำกันอยู่บ่อย ๆ คือการชาร์จแบตโทรศัพท์ไป และยังใช้งานไปด้วย พฤติกรรมแบบนี้ เรียกได้ว่ากำลังทำร้าย แบตเตอรี่อยู่ เนื่องจากยังมีการทำงาน ที่ต้องใช้ไฟจากแบตเตอรี่

เพราะขณะที่ชาร์จ กระแสไฟเข้ามาแล้ว จะเห็นได้ว่า มีการแบ่งกระแสไฟไป ทำให้เพิ่มปริมาณไฟฟ้ามากขึ้น ส่งผลให้ทั้ง โทรศัพท์รวมถึงอุปกรณ์ชาร์จไฟ เกิดความร้อนจนผิดปกติ

เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้แบตเสื่อมเร็ว ข่าวไอที ถ้าหากต้องการให้ แบตเตอรี่คงอยู่ไปนาน ๆ ควรหลีกเลี่ยงใช้งานตอนที่ชาร์จ หรือทางที่ดีที่สุดแนะนำว่า ปิดเครื่องในตอนที่ ชาร์จโทรศัพท์ไปเลย ถือได้ว่าเป็นอีกวิธีที่ดี

การใช้งานจนเครื่องโทรศัพท์ร้อน ชาร์จแบตเต็ม 100 ดีไหม เป็นอีกเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เนื่องจากความร้อน เรียกได้ว่าคือประเด็นสำคัญ ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ไม่ว่าจะเป็น ความร้อนจากแสงแดด หรืออุณหภูมิร้อนจัด ตามสภาพแวดล้อม อีกทั้งการใช้ที่ชาร์จประเภทไร้สาย เป็นประจำอีกด้วย

มีการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่าง “ความร้อน” และ “ประจุที่คงเหลือ” จะส่งผลในการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่อย่างไร จากการสังเกตแบตเตอรี่ ที่ไม่ได้ถูกใช้งาน ภายใต้อุณหภูมิที่ ไม่เหมือนกันนานถึง 1 ปี ระหว่างแบตเตอรี่ก้อนแรก ชาร์จอยู่ที่ 50% เกิดแรงดันไฟฟ้าที่มีโวลท์ต่ำ กับแบตเตอรี่ก้อนที่สอง ชาร์จอยู่ที่ 100% มีแรงดันไฟฟ้าที่มีโวลท์สูง

จากการทดสอบพบว่า อุณหภูมิที่ 60 องศาเซลเซียส แบตเตอรี่ที่ความจุ 40% นั้นเหลือพื้นที่เมื่อชาร์จครบ น้อยลงเหลือเพียง 75% เท่านั้น ขณะที่ก้อนแบตเตอรี่ 100% เหลือพื้นที่เมื่อชาร์จครบ น้อยลงเหลือเพียง 50% ซึ่งใช้เวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น

จากการทดลองนี้ จะเห็นได้ว่าสภาพแวดล้อม ที่มีอุณหภูมิยิ่งสูงมากขึ้น มีผลทำให้แบตเตอรี่ ยิ่งเสื่อมสภาพเพิ่มขึ้น ชาร์จแบตเร็ว อีกทั้งแบตเตอรี่ที่มี กระแสไฟฟ้าเยอะ มีผลทำให้เสื่อมเร็วขึ้นด้วย โดยทางบริษัท Apple ได้แนะนำว่า อุณหภูมิที่ดีที่สุด สำหรับแบตเตอรี่นั้น อยู่ในช่วง 0-35 องศาเซลเซียส

ถ้าจะต้องอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด ควรใช้โทรศัพท์เท่าที่จำเป็น ไม่เพียงเท่านั้น หากเลือกได้ ไม่ควรใช้ที่ชาร์จประเภทไร้สาย แนะนำให้ใช้สายชาร์จ หรือ Power Bank จะดีกว่า เพราะเป็นการช่วยรักษาแบตเตอรี่ ให้ใช้งานได้นานมากขึ้น

ที่ชาร์จรวมถึงแบตเตอรี่ ที่เป็นอุปกรณ์พกพาในปัจจุบัน ส่วนมากจะมีระบบตัดไฟ ตอนที่ชาร์จเต็ม จึงไม่ต้องกังวลว่า หากปล่อยชาร์จข้ามคืน จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้ แต่อีกแง่มุมหนึ่ง ถ้าใช้ที่ชาร์จหรือแบตเตอรี่ ที่เป็นของปลอม หรือไม่ได้มาตรฐาน อาจจะเป็นอันตรายได้

เนื่องจากของพวกนั้นอาจจะ ไม่มีระบบตัดไฟอยู่ภายใน จึงทำให้แบตเตอรี่ร้อนตลอดเวลา และแบตเสื่อมเร็วขึ้น อาจจะทำให้เสี่ยง ต่อการระเบิดอีกด้วย เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงใช้ ที่ชาร์จของปลอม แล้วเลือกใช้แบตเตอรี่ กับที่ชาร์จที่ได้มาตรฐานจะดีที่สุด

ถ้าหากเรามีการใช้ที่ชาร์จ ที่มีปริมาณโวลท์สูง มาชาร์จไฟเข้ากับโทรศัพท์ ส่งผลให้การใช้งานได้นานกว่าเดิม นั่นก็เป็นเพราะว่า ที่ชาร์จไฟดังกล่าว มีความสามารถจุไฟได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังชาร์จไฟ เข้าไปได้เยอะกว่า 100% จากที่จุได้นั่นเอง

หากจะนึกภาพตาม ก็เหมือนกับการที่ ใส่ของลงในถุง หากมีการออกแรง ก็สามารถใส่ลงไปเพิ่มได้อีกนิด สิ่งสำคัญคืออย่าลืมว่า หากมีการยัดเข้าไปบ่อย ๆ ถุงก็อาจจะเสียหาย หรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิม เหมือนกับแบตเตอรี่โทรศัพท์นั่นเอง ดังนั้นวิธีการที่ดี ควรใช้ที่ชาร์จที่มาพร้อมกับ เครื่องโทรศัพท์ถือว่าดีที่สุด @UFA-X10 

เรียบเรียงโดย อลิส